เศรษฐกิจเวียดนาม CAN BE FUN FOR ANYONE

เศรษฐกิจเวียดนาม Can Be Fun For Anyone

เศรษฐกิจเวียดนาม Can Be Fun For Anyone

Blog Article

บทความโดยเลขาธิการทั่วไปเกี่ยวกับวิธีการเป็นผู้นำที่สร้างสรรค์อย่างเข้มแข็ง

เวียดนาม… เศรษฐกิจเติบโตเด่นสุดในเอเชียแปซิฟิก

สาธารณูปโภค เช่น โรงไฟฟ้า เขื่อน ทางด่วน

กฏระเบียบที่ควรรู้ กฎหมายเกี่ยวกับการจัดตั้งและดำเนินธุรกิจ

จับตาศึกชิงเก้าอี้ร้อน ‘ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ’ ที่มีอำนาจควบคุม ธปท.

สองเมืองใหญ่ในเวียดนามคือฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้ ฮานอยเมืองหลวงตั้งอยู่ทางตอนเหนือและมีโอกาสทางการค้าที่สะดวกสบายมาก โฮจิมินห์ซิตี้ซึ่งมีประชากรมากที่สุดตั้งอยู่ทางตอนใต้และเป็นเมกกะอุตสาหกรรมของเวียดนาม

การเติบโตของการลงทุนจากจีนในเวียดนามเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น ต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่าในจีน สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาลเวียดนาม และความตกลงการค้าเสรีต่างๆ ที่เวียดนามได้เข้าร่วม นอกจากนี้ สงครามการค้ายังเป็นปัจจัยเร่งให้บริษัทต่างชาติ รวมถึงบริษัทจีน ย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเพื่อลดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม การลงทุนจากจีนในเวียดนามก็มีความท้าทายอยู่บ้าง เช่น ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและภาษา กฎระเบียบที่ซับซ้อน และความกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาจีนมากเกินไป โดยรวมแล้ว การลงทุนจากจีนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเวียดนาม และคาดว่าจะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อไปในอนาคต

นักวิชาการรายนี้อธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อเปรียบเทียบอุตสาหกรรมที่ลงทุนในไทยและเวียดนามจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน กล่าวคือ อุตสาหกรรมในไทยที่มีการลงทุนมาอย่างยาวนานและอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งใช้ระยะเวลาเปลี่ยนผ่านนานพอสมควร แต่สำหรับกรณีเวียดนามที่การลงทุนเพิ่มเข้ามา เป็นการตัดตอนมายังการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่เลยทำให้สามารถเดินหน้าได้รวดเร็วกว่า

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการเวียดนามในประเทศต้องปรับตัวอย่างมาก แต่เวียดนามมองว่าระยะยาวจะช่วยยกระดับมาตรฐานการทำดำเนินธุรกิจของเวียดนามได้

ในปัจจุบัน เนื่องจากปริมาณเงินสดสำรองในธนาคารลดลง บวกกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในการขนส่งเงินสดเนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย และความสามารถในการกระจายเงินสดจากสำนักงานใหญ่ไปยังสาขาที่ลดลง เศรษฐกิจเวียดนาม การถอนเงินสดจึงกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้น

หนึ่งในมาตรการเพื่อป้องกันอุตสาหกรรมนี้ในอนาคตที่ได้รับการสนับสนุนจากนายโครเช่คือ "พรีเมียมสีเขียว" ซึ่งเป็นภาษีเล็กน้อยที่เรียกเก็บจากกาแฟเพื่อนำไปใช้กับเกษตรกรในการลงทุนในแนวทางการเกษตรฟื้นฟู ซึ่งช่วยปกป้องและรักษาความสามารถในการทำการเกษตรให้ยั่งยืน

คำถามจากสังคมเกี่ยวกับบทบาทของไทยในเวทีโลกที่หายไป เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดสินใจไม่เดินทางเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค โดยเขาให้เหตุผลเรื่องครอบครัว

ทว่าชาวสวนกาแฟในเวียดนามก็กลับเผชิญกับภัยแล้งที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาคในรอบเกือบสิบปี

ทว่า ณ วันนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเวียดนามบอกว่า มีหลายแง่มุมที่เวียดนามพัฒนามากขึ้นและถือว่าแซงหน้าประเทศไทยไปแล้ว โดยเฉพาะหลังจากที่ไทยต้องประสบปัญหาทางการเมืองและการรัฐประหารซ้ำซาก ทำให้เสน่ห์และความน่าสนใจด้านการลงทุนจากต่างประเทศลดลงเรื่อย ๆ

Report this page